‘ยึดถืออุดมการณ์มานานกว่า 30 ปี ขอโอกาสให้ประชาธิปัตย์ได้ทำงานรับใช้คนสุพรรณบุรี
‘ยึดถืออุดมการณ์มานานกว่า 30 ปี ขอโอกาสให้ประชาธิปัตย์ได้ทำงานรับใช้คนสุพรรณบุรี’
ความในใจ ‘เมฆินทร์ เอี่ยมสอาด’ เจ้าของคำขวัญ ‘คิดอะไรไม่ออกบอกพี่เม’ กับบทบาทแม่ทัพค่ายสีฟ้าในการเลือกตั้ง 2566
ยังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่องสำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สุพรรณบุรี ของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งนำทัพมาโดย ‘เสี่ยต่อ - เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ เลขาธิการพรรคฯ และแม่ทัพในพื้นที่ที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์มาสู้ศึกในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นคนที่พบได้บ่อยๆ เพราะทำงานใกล้ชิดกับ ‘เสี่ยต่อ - เสี่ยจ้อน’ รวมทั้ง เป็นผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ และช่วยเหลือประชาชนชน พรรคประชาธิปัตย์ (BLUE HOUSE) ที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยากทั่วประเทศอยู่เสมอ รวมทั้ง คนสองพี่น้อง และบางปลาม้า ต่างรู้จักคำขวัญประจำตัวเป็นอย่างดี นั่นก็คือ ‘คิดอะไรไม่ออกบอกพี่เม’ ซึ่ง ‘เมฆินทร์ เอี่ยมสอาด’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 2 (อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง) คือ ‘พี่เม’ ที่ชาวบ้านคุ้นเคยและยึดมั่นในอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์มานาน 30 ปี
โดย ‘เมฆินทร์’ มีประวัติการศึกษาที่น่าสนใจ โดยจบมัธยมมาจาก ‘โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย’ โรงเรียนชื่อดังย่านราชเทวี จากนั้น ได้เข้าเป็น ‘ลูกพระนาง’ เป็นผู้จบการศึกษาหลักสูตรการเมืองการปกครอง รัฐศาสตรบัณฑิต (ร.บ.) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และได้รับโอกาสเป็นนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สําหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 24 สถาบันพระปกเกล้า (ปปร. 24) ซึ่งมีนักการเมือง และนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง เข้าไปร่วมเรียนในหลักสูตรดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของการทำงานทางการเมืองนั้น เริ่มเด่นชัดขึ้นมาจาก การที่เขาได้เชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรคมาเป็นระยะเวลายาวนาน จนได้รับโอกาสให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) ตั้งแต่ 2551 – 2554 จากนั้น เขาก็ได้ทำกิจกรรมกับทางพรรคฯ อย่างสม่ำเสมอ จนได้รับความไว้วางใจจากคนในพรรค ให้เข้ามาเป็น ผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ และช่วยเหลือประชาชนชน พรรคประชาธิปัตย์ (BLUE HOUSE) ซึ่งมีผลงานในการช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยากมากมาย เช่น การสร้างบ้านใหม่ให้กับเด็กนักเรียนที่เรียนดี มีจิตอาสา แต่ขาดแคลนที่อยู่อาศัยที่ถูกสุขลักษณะ การเยี่ยมเยือนช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการ การช่วยเหลือผู้ที่ตกสำรวจทางทะเบียนราษฎร์เพื่อได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 การรับฟังปัญหาทางสังคมต่างๆ เพื่อที่ได้ประสานงานหน่วยงานต่างๆ และนำมาเป็นนโยบายของพรรคฯ เป็นต้น และในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ ‘เสี่ยต่อ - เฉลิมชัย’ ได้มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ก็ได้มีการแต่งตั้ง ‘เสี่ยจ้อน – อลงกรณ์’ ให้มาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งไม่ลืมที่จะหนีบเมฆินทร์ เข้าไปเป็นที่มคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ โดยตลอดระยะเวลาของการเป็นคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการฯ นั้น ก็ได้มีการติดตามการดำเนินงานของทางกระทรวงฯ อย่างใกล้ชิด
สำหรับในการลงพื้นที่ในเขตเลือกตั้งของ ‘พี่เม’ นั้น ปรากฎว่า ได้ลงพื้นที่มาอย่างยาวนาน แทบจะเรียกได้ว่า หลังจากวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ก็ลงไปยังพื้นที่เขตเลือกตั้งทันที โดยมีผลงานช่วยเหลือพี่น้องชาวสองพี่น้อง บางปลาม้า อย่างต่อเนื่อง เช่น การช่วยเรื้องปัญหาน้ำท่วมเเละ การร่วมมือกับประชาคมในพื้นที่ในการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในแคมเปญ ‘สองพี่น้องต้องปลอดภัย’ การช่วยเหลือบรรดาผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ และติดตามปัญหาของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่า ชาวบ้านแถวนั้น คิดอะไรไม่ออกต่างบอกพี่เม กันถ้วนหน้า
เมื่อพูดถึงการสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีนั้น เมฆินทร์ เอี่ยมสอาด ก็ได้แสดงถึงความพร้อมในการสู้ศึกในครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยเชื่อมั่นว่า ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และได้ลงพื้นที่สม่ำเสมอ รวมทั้ง นโยบายพรรคฯ ที่ทยอยออกมาก็ตรงโจทย์ความต้องการของประชาชน เช่น โครงการประกันรายได้เกษตรกร ชาวนารับ 30,000 บาท เพื่อพัฒนาศักยภาพและผลผลิตข้าวทุกครัวเรือน 3 ล้านบาทต่อยอดเกษตรแปลงใหญ่ นมโรงเรียนฟรี 365 วัน เรียนฟรี ถึงปริญญาตรี สาขาที่ตลาดต้องการ อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน เป็นต้น สำหรับกลยุทธ์หรือยุทธวิธีในการหาเสียงนั้น ก็ใช้ความสดใหม่ของผู้สมัครและพยายามอธิบายเชิญชวนให้เห็นความสำคัญของนโยบายพรรค และความเปลี่ยนแปลงหากประชาชนได้ตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเป็น ส.ส. เพราะการเลือกตั้งในคราวนี้ เป็นเลือกตัวผู้สมัครและพรรคการเมืองเข้าไปผลักดันนโยบาย ไม่ใช่การเลือกเพื่อยุทธศาสตร์หรือเลือกเพื่อให้คนใดคนหนึ่งบรรลุเป้าหมายเหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมา สำหรับตนเองนั้น ก็มั่นใจว่า ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมทั้ง ในฐานะแม่ทัพทีสู้ศึกในพื้นที่ ก็ตั้งเป้าหมายเอาไว้สูงสุดว่า หลังการเลือกตั้งในคราวนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จะได้มี ส.ส. ดูแลรับใช้คนสุพรรณบุรี ซึ่งต้องขอแรงสนับสนุนจากประชาชนชาวสุพรรณฯ ในการร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น